การระบุประเด็นสำคัญทางธุรกิจ
การวิเคราะห์เพื่อระบุประเด็นทางธุรกิจและความยั่งยืน


SUTHA มีการทบทวนการประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืนโดยวิเคราะห์ประเด็นที่อาจส่งผลกระทบทั้งเชิงบวกและเชิงลบซึ่งเกิดกับกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียภายในและภายนอก โดยมีกระบวนการ/วิธีการ/ขั้นตอน ที่ระบุประเด็นที่เป็นสาระสำคัญของบริษัท ประกอบด้วยการพิจารณาความคิดเห็นและข้อมูลสนับสนุนจากผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม การจัดลำดับความสำคัญประเด็นความยั่งยืน และกำหนดให้คณะกรรมการกำกับการพัฒนาความยั่งยืนเป็นผู้อนุมัติประเด็นที่เป็นสาระสำคัญก่อนเสนอรายงานให้คณะกรรมการบริษัทพิจารณาเพื่อทราบ โดยกระบวนในการจัดทำประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืน มีขั้นตอนดังนี้


ตารางสำรวจข้อมูลผู้มีส่วนได้ส่วนเสียประเด็นธุรกิจ

กระบวนการประเมินและวิเคราะห์ประเด็นความยั่งยืนที่มีความสำคัญของ SUTHA


ปี 2566 SUTHA ได้ปรับแนวทางการจัดทำ Material Topics อ้างอิง มาตราฐาน GRI Foundation 2021 (GRI 3: Material Topic) ประยุกต์ร่วมกับแนวทางวิธีการบ่งชี้ Materiality จากหลักสูตร S04 การวิเคราะห์ประเด็นสำคัญและความเสี่ยงด้านความยั่งยืน (Materiality and Sustainability Risk Analysis) ซึ่งเป็นหลักสูตรที่จัดการฝึกอบรมที่สนับสนุนโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยทีมบุคลากรด้านความ ยั่งยืนขององค์กรได้เข้าร่วมการอบรมหลักสูตรดังกล่าวจากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ และผ่านการฝึกอบรมและได้รับประกาศนียบัตร รวม 17 คน



กระบวนการ/วิธีการ/ขั้นตอน ที่ระบุประเด็นความยั่งยืนที่มีความสำคัญของ SUTHA


กระบวนการ/วิธีการ/ขั้นตอน ที่ระบุประเด็นความยั่งยืนที่มีความสำคัญของ SUTHA

  1. Understand Organization Context

    ทำความเข้าใจบริบทขององค์กร โดยการรวบรวมข้อมูลสำคัญตามความคาดหวังจากกลุ่มผู้มีส่วนได้เสีย โดยพิจารณาคัดเลือกประเด็นที่เป็นปัจจัยสำคัญต่อการรักษาความสามารถในการแข่งขัน ผลกระทบหรือความเสี่ยงที่เกิด หรือมีโอกาสเกิดขึ้น หรือโอกาสเพื่อสร้างมูลค่ากับธุรกิจหรือผู้มีส่วนได้เสียทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจให้เกิดความยั่งยืนทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม โดยวิเคราะห์ประเด็นจากทั้งปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก

    • ข้อมูลภายในองค์กร โดยรวบรวมจากการระดมความคิดของทีมปฏิบัติการในระดับต่าง ๆ การประชุม ปัจจัยความเสี่ยงจากผลการสำรวจขององค์กรที่ได้รับจากกลุ่มผู้มีส่วนได้เสีย โดยเป็นประเด็นที่อาจส่งผลกระทบต่อความยั่งยืนขององค์กรทั้งในระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว ตลอดจนข้อมูลที่ได้จากการพบปะและรวบรวมจากความเห็นจากกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียทั้งภายในและภายนอกองค์กรที่เกี่ยวข้อง รวมถึงประเด็นที่ระบุที่เป็นผลกระทบเชิงลบซึ่งเป็นผลประเมินความเสี่ยงด้านความยั่งและความเสี่ยงขององค์กร ตามแนวทาง ESG และ ERP (ESG and Enterprise Risk Management ตามแนวทางของ COSO ERP 2017) โดยเป็นความเสี่ยงที่เกิดขึ้นและกระทบกับผลการดำเนินงาน หรือที่อาจส่งผลกระทบหากไม่มีมาตรการดำเนินการจัดการป้องกัน โดยประเมินจากและกระบวนการภายใต้ห่วงโซ่อุปทาน

    • ข้อมูลภายนอกองค์กร พิจารณาแนวโน้มด้านความยั่งยืน เช่นแนวทางการพัฒนาธุรกิจสู่ความยั่งยืนที่ให้การส่งเสริมโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์กรสหประชาชาติ (SDGs) หรือแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของโลก ภาวะวิกฤตที่อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง การเปลี่ยนแปลงกฎหมาย กฎเกณฑ์ ข้อบังคับ ระเบียบ หรือข้อกำหนดตามมาตรฐานควบคุมที่มีแนวโน้มที่เปลี่ยนแปลง โดยประเด็นความยั่งยืนที่กำหนดอาจเป็นชุดของประเด็นที่มีความเชื่อมโยงเกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กัน เช่น ประเด็นด้านการแข่งขันและการป้องกันการสูญเสียส่วนแบ่งการตลาดอาจเชื่อมโยงถึงการเพิ่มขึ้นของต้นทุนการผลิตซึ่งส่งผลให้เกิดการปรับราคา และอาจส่งผลให้เกิดการสูญเสียส่วนแบ่งการตลาด หรือการบริหารจัดการสภาพคล่องอาจเชื่อมโยงถึงการปรับเพิ่มขึ้นของต้นทุนเชื้อเพลิงทำให้บริษัทต้องใช้เงินทุนหมุนเวียนในการจัดซื้อจัดหาที่เพิ่มขึ้น หรือเกิดจากการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ย เป็นต้น

  2. Identification and Relevance

    การบ่งชี้ความสัมพันธ์ของประเด็นที่สำคัญกับองค์กร เป็นการวิเคราะห์ถึงผลกระทบหรือประเด็นความยั่งยืน

    • ความสัมพันธ์ใน กระบวนการหลักภายใต้ห่วงโซ่ธุรกิจในกระบวนการปฏิบัติงานขององค์กร ได้แก่ด้านกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการจัดหาวัตถุดิบและการขนส่งขาเข้า ซึ่งรวมไปถึงการจัดการเหมือง กระบวนการผลิตและสนับสนุนการผลิต การจัดส่งและขนส่งสินค้าถึงลูกค้า การขายและการตลาด เป็นต้น โดยประเมินความสัมพันธ์และผลกระทบที่เกิดขึ้น หรืออาจเกิดมีขึ้นในแต่ละกระบวนการ

    • ความสัมพันธ์กับองค์กร ธุรกิจแต่ละกระบวนการเกิดในด้านใด เช่น

      • ด้านการเงิน (Financial) เช่น กระทบต่อยอดขาย, ส่งผลให้เกิดค่าใช้จ่าย, สร้างผลตอบแทนเพิ่ม เป็นต้น

      • การดำเนินการ (Operational) เช่น กระทบต่อผลผลิต, ประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต เป็นต้น

      • กลยุทธ์ (Strategic) เช่น การแข่งขันทางการตลาด (Market Competitiveness) โดยกระทบต่อส่วนแบ่งการตลาด, จำนวนลูกค้า, พื้นที่การตลาด เป็นโอกาส หรือ ความเสี่ยงที่กระทบและเกี่ยวข้องกับคุณค่าทางธุรกิจส่งเสริมต่อการสร้างความสามารถหรือการกำหนดทิศทางการดำเนินธุรกิจ ทั้งระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว เป็นต้น

      • ชื่อเสียง (Reputation) โดยเป็นผลกระทบต่อแบรนด์ (Brand) หรือผลการะทบที่ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของบริษัท หรืออาจรวมไปถึงสิทธิในการดำเนินธุรกิจ โดยเป็นผลกระทบเชิงคุณภาพด้านความสัมพันธ์ที่เป็นเหตุเป็นผล (Casual Effect) ที่อาจส่งผลต่อความสามารถในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน (Capitals) เป็นต้น

      • กฎหมาย หรือความสัมพันธ์ด้านหลักการ เป็นประเด็นที่ต้องดำเนินการให้สอดคล้องหลักการ หรือเป็นไปตามมาตรฐาน ทิศทางตามเป้าหมายความยั่งยืนตามกรอบความยั่งสากล SDGs เป็นต้น

  3. Importance

    การประเมินความสำคัญของประเด็นสำคัญที่ส่งผลต่อธุรกิจซึ่งลำดับความสำคัญความสำคัญกับองค์กรลักษณะของผลกระทบซึ่งประกอบด้วย โดยกำหนดเกณฑ์การให้ความสำคัญ

    เกณฑ์ 0 = ไม่ได้รับผลกระทบ, 1 = น้อยมาก, 2 = น้อย, 3 = ปานกลาง 4=รุนแรง , 5=รุนแรงมาก

    ระดับการเติบโตของประเด็น

    Level 1 ประเด็นซ่อนเร้น (Latent) ซึ่งข้อเท็จจริงไม่มีข้อยืนยันทางวิทยาศาสตร์

    Level 2 ประเด็นเริ่มปรากฎ (Emerging) ซึ่งข้อเท็จจริงเริ่มมีการศึกษาและงานวิจัยแต่ยังไม่เป็นที่สรุปที่เป็นที่ยอมรับ

    Level 3 ประเด็นที่ชัดเจน (Consolidating) มีหลักฐานที่ชัดเจน หรือ ประเด็นที่เป็นธรรมเนียมปฏิบัติ (Institution) ซึ่งไม่จำเป็นต้องมีหลักฐานเนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติที่เป็นเลิศทางธุรกิจโดยมีกฎระเบียบ หรือเป็นบรรทัดฐานที่เป็นธรรมเนียมการปฏิบัติ


  4. Stakeholders Engagement

    การเชื่อมโยง หาความสัมพันธ์ของประเด็นความยั่งยืนที่อาจส่งผลกับผู้มีส่วนได้เสียซึ่งเกี่ยวข้องและเป็นผู้ได้รับผลกระทบหรือเป็นผู้ก่อผลกระทบ ทั้งทางตรงหรือทางอ้อม ผู้มีส่วนได้เสียที่ได้รับผลกระทบ หรือองค์กรได้รับผลกระทบจากผู้มีส่วนได้เสีย รวมไปถึงการสร้างความร่วมมือเพื่อส่งมอบคุณค่าร่วม การสร้างการมีส่วนร่วมสู่การดำเนินการเพื่อลดผลกระทบหรือการพัฒนาที่ยั่งยืนร่วมกัน การเชื่อมโยงกับผู้มีส่วนได้เสีย ซึ่งประเมินจากความรู้สึกของผู้มีส่วนได้เสียต่อประเด็นที่ได้บ่งชี้ โดยมีเกณฑ์

    Level 1 Interest คือ ผู้มีส่วนได้เสียแสดงความสนใจในประเด็นดังกล่าว/แสดงความเห็นว่าจะบริหารจัดการ

    Level 2 Expectation คือ ผู้มีส่วนได้เสียมีความคาดหวังว่า บริษัทควรจะมีการบริหารจัดการประเด็นดังกล่าวในเวลานี้ หรือในอนาคตอันใกล้ เพื่อเป็นการบริหารจัดการความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น หรือเป็นการ เตรียมพร้อมในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลง

    Level 3 Concern คือ ผู้มีส่วนได้เสียมีความกังวลกับประเด็นดังกล่าว และเห็นว่าหากบริษัทไม่มีการบริหารจัดการดังกล่าวจะเกิดความเสียหาย มีความเสี่ยง หรือขาดโอกาสที่สำคัญทางธุรกิจ


  5. Prioritization

    การลำดับความสำคัญ เป็นการนำประเด็นสำคัญที่อาจส่งผลกระทบต่อความยั่งยืนขององค์กร นำมาจัดลำดับความสำคัญโดยซึ่งบริษัทเลือกใช้เครื่องมือ Materiality Matrix ซึ่งประกอบด้วย

    • แกนนอน : เป็นประเด็นที่สำคัญต่อองค์กร พิจารณาจากผลกระทบ โอกาส/ความเสี่ยง ที่อาจจะเกิดต่อองค์กร ทั้งในระยะสั้น และบางประเด็นเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องทั้งในระยะกลาง จนถึงระยะยาว

    • แกนตั้ง : เป็นประเด็นที่สำคัญต่อผู้มีส่วนได้เสียในการตัดสินใจใด ๆ ต่อองค์กร โดยพิจารณาจากระดับผลกระทบและ ความสำคัญที่อาจเกิดขึ้นจากองค์กรต่อกลุ่มผู้มีส่วนได้เสีย ทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว

    การประเมินระดับของผลกระทบเพื่อจัดลำดับของความสำคัญของประเด็นที่ส่งผลด้านคุณค่าเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน เพื่อสร้างมูลค่าระยะยาวให้กับกิจการ เพื่อสนับสนุนต่อการดำเนินการทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม หรือเป็นประเด็นความยั่งยืนที่ส่งผลกระทบอย่างเป็นสาระสำคัญและเป็นพื้นฐานสำหรับการกำหนดกลยุทธ์ หรือแนวทางการดำเนินการ หรือกิจกรรมการขับเคลื่อนต่าง ๆ รวมถึงการจัดสรรงบประมาณในส่วนที่เกี่ยวข้อง

    โดยมีกระบวนการจัดลำดับความสำคัญของประเด็นที่เกิดในแต่ละมิติเพื่อจัดกลุ่มหัวข้อของประเด็นสำหรับคัดเลือกเป็น Materiality Topics ที่จะบริหารจัดการในแต่ละมิติ และนำไปจัดทำแผนภาพ Materiality Topics โดยแสดงภาพรวมของ กลุ่มประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืนในแต่ละมิติ


  6. Validation

    การให้เหตุผล เป็นการกลั่นกรองและทบทวนความสำคัญของประเด็นที่ได้บ่งชี้ความสัมพันธ์ที่เป็นเหตุและผล รวมถึงการทบทวนหรือ ตรวจสอบความถูกต้องเพื่อความน่าเชื่อถือของประเด็นความยั่งยืนที่กำหนด ซึ่งประเด็นความยั่งยืนที่สำคัญจะได้รับการทบทวนโดยฝ่ายบริหารที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการกำกับการพัฒนาความยั่งยืนเพื่อเสนอรายงานต่อคณะกรรมการ เพื่อกำหนดในการบ่งชี้เพื่อนำประเด็นที่กำหนดเป็นส่วนในการประเมินเพื่อกำหนดปัจจัยละกำหนดกลยุทธ์ธุรกิจ/กลยุทธ์ด้านความยั่งยืน หรือยกระดับไปสู่การบริหารจัดการความเสี่ยงขององค์กรหรือเพื่อบ่งชี้ทิศทางของธุรกิจในอนาคต รวมถึงมีการเปิดเผยสื่อสารให้ผู้มีส่วนได้เสียรับทราบผ่านการรายงานประจำปีเพื่อรายงานผลการขับเคลื่อนด้านความยั่งยืน

  7. Management

    การบริหารจัดการประเด็น เป็นการวางกรอบการดำเนินการด้านความยั่งยืน รวมถึงกลยุทธ์ และกำหนดปัจจัย และตัวชี้วัดเพื่อวางเป้าหมายในการบริหารจัดการด้านความยั่งยืน ซึ่งเป็นกรอบการดำเนินการทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม โดยกำหนดเป็นกิจกรรมหรือโครงสร้าง รวมถึงแผนดำเนินการเพื่อบริหารจัดการในแต่ละประเด็นที่ได้รับการคัดเลือก
ดาวน์โหลดเอกสาร

หากต้องการอ่านประเด็นที่สำคัญทางธุรกิจและความยี่งยืน


ชื่อไฟล์ : Materiality Topic ล่าสุด
ขนาดไฟล์ : 3.55 MB
ชนิดไฟล์ : pdf
ดาวน์โหลด

เอกสารอื่นๆ

การวิเคราะห์เพื่อระบุประเด็นทางธุรกิจและความยั่งยืน